กลหลอกลวงนักเดินทาง 4 อันดับแรก และวิธีการที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อ

pexels-photo-3943881.jpeg

ผู้เขียน: Liv Skyler


คุณจะปลอดภัยจากเรื่องความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ส่วนใหญ่ในขณะเดินทางได้ หากคุณใช้ความระมัดระวังมากพอ แต่ทว่าในบางครั้ง ก็อาจเกิดเรื่องโชคร้ายขึ้นได้ การหลอกลวงนักเดินทางนั้นเป็นสิ่งที่พบได้บ่อย และอาจเกิดขึ้นได้ แม้กับนักเดินทางที่ระมัดระวังตัวอย่างที่สุดแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม การตระหนักถึงกลหลอกลวงเหล่านี้ จะช่วยให้คุณปกป้องตัวเองได้มากกว่าการใช้แค่ความระมัดระวังทั่วไป หลังจากที่คุณทราบกลโกงที่พวกนักต้มตุ๋นเหล่านี้ใช้หลอกนักท่องเที่ยวแล้ว คุณจะระมัดระวังตัวคุณเองได้มากยิ่งขึ้น ในบางกรณี คุณอาจทำบางสิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อได้เช่นกัน

เราจะมาดูกลหลอกลวงนักเดินทาง 4 อันดับแรกเพื่อเจาะลึกเรื่องนี้กัน เราจะอธิบายด้วยว่าคุณจะหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของพวกเขาได้อย่างไร

กล "ทำน้ำหกใส่"


โชคไม่ดีนักที่การล้วงกระเป๋าเพื่อชิงของมีค่าจากนักท่องเที่ยวนั้นเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไป เหตุการณ์นี้มักเกิดขึ้นในยุโรป แต่ก็เกิดขึ้นในที่อื่นๆ ทั่วโลกด้วยเช่นกัน และกลอุบายในการล้วงกระเป๋านั้นก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบ บ้างอาจล้วงกระเป๋าในรถไฟใต้ดินที่มีผู้คนคับคั่ง บ้างก็หลอกให้นักเดินทางสับสนด้วยการเปลี่ยนสกุลเงินที่ตู้ ATM บ้างก็อาสาช่วยบอกทาง ในขณะที่แอบล้วงกระเป๋าเงินของคุณ

หนึ่งในกลอุบายที่พบได้บ่อยก็คือ กล "ทำน้ำหกใส่" กลนี่อาจมาในรูปแบบที่หลากหลาย แต่ก็มีรูปแบบที่เรียบง่าย: คนในท้องถิ่นจะทำบางสิ่งหกใส่คุณ "โดยบังเอิญ" แล้วพวกเขามักจะยืนกรานที่จะช่วยเช็ดให้คุณ พร้อมกับแสร้งให้ความช่วยเหลือ ท่ามกลางความสับสนนั้น พวกเขาจะพุ่งเป้าไปที่กระเป๋าเงิน หรือของมีค่าอื่นๆ ของคุณ นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย และเป็นกลที่ยากจะหลบเลี่ยง เพราะมีการสัมผัสทางกายภาพมาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ในการแก้ไขเหตุการณ์นี้ก็คือการเดินหนีไป ชาวบ้านที่ใช้กลอุบายนี้จะพยายามดื้อดึง แต่ถ้าคุณยืนกรานว่าคุณไม่เป็นไร และแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าคุณไม่ต้องการให้แตะต้องตัว และเดินทางต่อไป คุณก็จะมีโอกาสตกเป็นเหยื่อน้อยลง


กลโกงข้ามพรมแดน


กลโกงข้ามพรมแดนนั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบ เฉกเช่นเดียวกับการล้วงกระเป๋า โดยทั่วไปแล้วก็คือ จะมีคนสวมบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดน หรือเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาพูดคุยกับคุณ พวกเขาจะช่วยคุณข้ามพรมแดนโดยแลกกับค่าธรรมเนียมที่ไม่มีอยู่จริง และอาจนำเสนอบริการเพิ่มเติมเพื่อหลอกเอาเงินเพิ่ม (เช่น นั่งไปในรถของพวกเขา) วิธีการนี้จะหลอกให้นักเดินทางจ่ายค่าผ่านพรมแดนโดยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

ขั้นแรกในการหลีกเลี่ยงกลโกงนี้ก็คือ คุณต้องทำความคุ้นเคยก่อนว่าคุณจะต้องไปพบกับใครที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และพวกเขาควรปฏิบัติตัวอย่างไร เนื่องด้วยการศึกษาออนไลน์และปริญญาตรีออนไลน์สาขากระบวนการยุติธรรมทางอาญาได้กลายมาเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ในทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานในตำแหน่งเหล่านี้มักจะเป็นผู้ที่ได้รับการศึกษา เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ตระเวนชายแดนจะต้องศึกษากระบวนการยุติธรรมทางอาญา มีความเชี่ยวชาญในหน้าที่ และปฏิบัติงานตามกิจวัตรประจำวันที่กำหนดไว้ นี่ไม่ได้บอกว่านักต้มตุ๋นไม่สามารถเลียนแบบเจ้าหน้าที่ได้ แต่การทำความคุ้นเคยกับสิ่งที่คุณคาดหวังจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตัวจริง จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสังเกตเห็นความแตกต่างได้

เคล็ดลับเฉพาะ: เลือกคำถามสักหนึ่ง หรือสองคำถามที่มีเพียงเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองที่มีประสบการณ์ และได้รับการศึกษาเท่านั้นที่จะตอบได้ในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งทำให้คุณมีโอกาสที่จะสังเกตผู้แอบอ้าง และหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บเงินเกินจริงได้


โจร Wi-Fi



อาชญากรรมทางไซเบอร์ผ่าน Wi-Fi ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะกับการเดินทางเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นี่เป็นอีกหนึ่งกลโกงที่นักเดินทางมักตกเป็นเหยื่อ ในขณะที่คุณเดินทางอยู่นั้น คุณมักจะตื่นเต้นที่ได้พบ Wi-Fi สาธารณะที่ใช้งานได้ คุณอาจจำเป็นต้องส่งอีเมลกลับบ้าน ตรวจสอบเส้นทางเพื่อหากิจกรรมท่องเที่ยว ฯลฯ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม คุณก็มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ระบบ Wi-Fi อะไรก็ตามที่คุณเข้าได้ และเข้าไปใช้งาน กระบวนการดังกล่าวอาจทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงของอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้ นักต้มตุ๋นจอมฉวยโอกาส และชาญฉลาดสามารถขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณผ่านเครือข่ายระบบไร้สายได้

วิธีการที่จะหลีกเลี่ยงปัญหานี้นั้นมีอยู่ในรายการสิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำขณะใช้โทรศัพท์มือถือของคุณในต่างประเทศ ในบทความดังกล่าวได้ระบุไว้ว่า คุณควรเปิดใช้งานฟีเจอร์ "ถามเพื่อเข้าร่วมเครือข่าย" ของโทรศัพท์ของคุณ นี่เป็นขั้นตอนง่ายๆ แต่เป็นหนึ่งขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณตรวจสอบ Wi-Fi ได้อย่างมีสติ เพราะเมื่อไม่ได้ทำการเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติแล้ว คุณจะมีโอกาสได้ตัดสินใจว่าจะเชื่อใจบริการดังกล่าวหรือไม่ นอกจากนี้ นี่ยังมอบโอกาสให้คุณได้เปิดการป้องกัน เช่น VPN เป็นต้น


กลโกงแลกเปลี่ยนเงินตรา



นี่เป็นอีกกลโกงหนึ่งที่มาในรูปแบบที่หลากหลาย นี่อาจเป็นคนขับแท็กซี่ที่ทอนเงิน นี่อาจเป็นคนแปลกหน้าที่ให้ความช่วยเหลือที่ตู้ ATM แถมนี่อาจจะเป็นเจ้าของร้านค้าก็ได้ กลโกงในกรณีเหล่านี้ก็คือ การที่มีคนพยายามที่จะทำให้คุณสับสนเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่คุณอยู่ในต่างประเทศนั้น คุณอาจถูกถาโถมด้วยบทสนทนามากมาย เนื่องด้วยเหตุนี้เอง คุณอาจมีแนวโน้มที่จะไว้ใจผู้คนในท้องถิ่นที่ดูใจดีหรือเป็นมืออาชีพ (หรือทั้งสองอย่าง) ได้

ความอดทน และความใส่ใจในรายละเอียดนั้นจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการกลโกงรูปแบบนี้ได้ ใช้เวลาสักครู่เพื่อคิดเลขทุกครั้งที่คุณแลกเปลี่ยนสกุลเงิน หากคุณต้องการความมั่นใจล่ะก็ มีเครื่องมือแปลงสกุลเงินต่างๆ ที่คุณสามารถดาวน์โหลด และใช้งานฟรีได้ ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีใด โปรดใช้ความระมัดระวังเพื่อช่วยให้มั่นใจได้ว่าการแลกเปลี่ยนเป็นไปอย่างยุติธรรม นักต้มตุ๋นหลายคนมักหลอกนักท่องเที่ยวด้วยวิธีนี้ได้ง่ายๆ จนน่าประหลาดใจ


บทสรุป



กลอุบายเหล่านี้ไม่ใช่กลหลอกลวงนักเดินทางทั้งหมดที่คุณอาจพบเจอ กลหลอกลวงเหล่านี้เป็นกลอุบายที่พบได้บ่อย และเป็นสิ่งที่คุณควรระมัดระวัง เราหวังว่าวิธีการระบุกลหลอกลวงเหล่านี้ และวิธีหลีกเลี่ยงจะช่วยเตรียมความพร้อมให้คุณมีทริปการเดินทางที่ปลอดภัยในทริปครั้งต่อไปของคุณ!
 


พร้อมที่จะลองใช้ eSIM และเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่อของคุณหรือยัง

ดาวน์โหลดแอป Airalo เพื่อซื้อ จัดการ และเติมเงิน eSIM ของคุณได้ทุกที่ทุกเวลา!

Airalo | Download mobile app
Airalo | Use your Free Credit

ใช้เครดิตฟรีของคุณ

คุณสามารถรับเครดิต Airmoney มูลค่า US$3 ได้ด้วยการแชร์รหัสการแนะนำของคุณกับเพื่อนๆ